แผนส่งเสริม EV
เจาะลึกสรุปแผนส่งเสริม EVs แพ็คเกจใหม่ฉบับ 2 จาก BOI
เมื่อไม่กี่วันก่อนนี้ บีโอไอได้เปิดรับการเสริมการลงทุนการผลิตยานพาหนะไฟฟ้า (อีวี) รอบใหม่ หลังจากหมดระยะเวลาการยื่นคำขอรับการส่งเสริมไปตั้งแต่ปี 2561 โดยในรอบนี้ จะมีการเปิดให้รับการส่งเสริมยานพาหนะไฟฟ้าทุกประเภท ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถสามล้อ รถโดยสารและรถบรรทุก รวมถึงเรือที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า จากเดิมที่มีการส่งเสริมเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าและรถโดยสารไฟฟ้า โดยทีมงาน TDR สรุปประเด็นสําคัญได้ดังนี้
1. กิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ที่มีการลงทุนไม่น้อยกว่า 5000 ล้านบาทจะสามารถผลิตยานยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) ควบคู่กันได้ โดยจะต้องเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ภายในระยะเวลาที่กําหนดและต้องผลิตชิ้นส่วนสําคัญให้ได้อย่างน้อย 3 ชิ้นโดยจะได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี
2. กิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ที่มีการลงทุนน้อยกว่า 5000 ล้านบาท จะได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี
3. กิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) จะได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี โดยต้องผลิตชิ้นส่วนสําคัญอย่างน้อย 3 ชิ้น
4. กิจการจะได้รับสิทธิ์เพิ่มขึ้นจากเดิม หากทําได้ตามหลักเกณฑ์ที่กําหนด ได้แก่
- มีการเริ่มผลิตรถยนต์ภายในปี 2565
- มีการผลิตชิ้นส่วนสําคัญในประเทศ โดยได้เพิ่มขึ้นตามจํานวนชิ้น
- มีการผลิตจริงมากกว่า 10000 คันต่อปี
5. กิจการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและสามล้อไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ จะได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี โดยจะได้รับสิทธิ์เพิ่มขึ้น หากมีการผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าจากขั้นตอนผลิต Module และชิ้นส่วนอื่นอย่าง Traction motor
6. กิจการผลิตรถเมล์และรถบรรทุกไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ จะได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี โดยจะได้รับสิทธิ์เพิ่มขึ้น หากมีการผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าจากขั้นตอนผลิต Module และชิ้นส่วนอื่นอย่าง Traction motor
7. กิจการผลิตหรือซ่อมเรือพลังงานไฟฟ้าจะได้รับสิทธืประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี
8. มีการปรับปรุงขอบข่าย และเพิ่มรายการชิ้นส่วนสําคัญอีก 4 ชิ้น จาก 13 ชิ้นในแผนเดิม ได้แก่
- High voltage harness
- Reduction gear
- Battery cooling system
- Regenerative braking system
เพิ่มขึ้นจาก 13 ชิ้นส่วนเดิม ได้แก่
- Battery
- Traction Motor
- ระบบปรับอากาศด้วยไฟฟ้าหรือชิ้นส่วน
- ระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่ (BMS)
- ระบบควบคุมการขับขี่ (DCU)
- On-Board Charger
- สายชาร์จแบตเตอรี่พร้อมเต้ารับ-เต้าเสียบ
- DC/DC Converter
- Inverter
- อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่แบบพกพา
- Electric Circuit Breaker
- ระบบอัดประจุไฟฟ้าอัจฉริยะ
- คานหน้า/คานหลังสำหรับรถโดยสารไฟฟ้า
9. ผู้ผลิตจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมในลดหย่อนภาษีการนําเข้าวัตถุดิบที่ไม่มีการผลิตในประเทศในอัตราร้อยละ 90 เป็นระยะเวลา 2 ปีในกรณีที่มีการผลิต Cell หรือ Module แบตเตอรี่
10. ผู้ผลิตจะต้องเสนอแผนงานเป็นแพ็คเกจ ต้งแต่ขั้นตอนการนําเข้าและติดตั้งเครื่องจักร แผนการผลิตในระยะเริ่มต้น และแผนการจัดหาวัติถุดิบจากประเทศไทย ที่มีคนไทยถือหุ้นข้างมาก
การที่บีโอไอเปิดแผนงานส่งเสริมฉบับที่ 2 นั้น มีจุดประสงค์ 2 ข้อใหญ่ๆ
1. ปรับปรุงข้อกําหนดให้ตอบรับกับข้อเรียกร้องของผู้ผลิตรถยนต์รายเดิม เช่นปัญหาการผลิตเซลแบตเตอรี่ เนื่องจากประเทศไทยไม่มีวัตถุดิบหรือดีมานด์ที่มากพอในการตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ จึงอนุญาตให้ลดหย่อนภาษีนําเข้าเพื่อแก้ปัญหาในจุดนี้
2. รองรับผู้ผลิตใหม่ ที่ข้อกําหนดฉบับแรกครอบคลุมไม่ชัดเจน หรือขอรับการส่งเสริมไม่ทันเวลา โดยผู้ที่ได้รับประโยชน์ที่สุดจากแผนฉบับนี้ คือเกรทวอลมอเตอร์ ที่ตั้งใจจะใช้สิทธิประโยชน์เพื่อผลิตรถยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ผลิตจักรยานยนต์ ที่แสดงความสนใจในการผลิตจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเช่น ฮาร์ลีย์เดวิดสัน และบีเอ็มดับบลิว เป็นต้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น